ประกันสุขภาพคืออะไร และทำไมจึงสำคัญ? 

แม้ประกันสุขภาพอาจดูซับซ้อนในตอนแรก แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการบริหารค่าใช้จ่ายทางการแพทย์และปกป้องสุขภาพทางการเงินของคุณ 

 ต่อไปนี้คือคำอธิบายแบบเข้าใจง่าย เพื่อให้คุณเรียนรู้พื้นฐานเกี่ยวกับประกันสุขภาพ 

ประกันสุขภาพคืออะไร?

ประกันสุขภาพช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลของคุณ โดยคุณชำระเบี้ยประกันเป็นประจำทุกเดือน  เมื่อคุณไปพบแพทย์ รับยาตามใบสั่ง หรือเข้ารับการรักษา ประกันจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเหล่านั้น 

คำศัพท์สำคัญที่ควรรู้ 

  • เบี้ยประกัน (Premium): จำนวนเงินที่คุณจ่ายทุกเดือนเพื่อให้ประกันของคุณยังคงมีผลคุ้มครอง 
  • ค่าหักลดหย่อน (Deductible): จำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายเองก่อนที่ประกันจะเริ่มช่วยจ่าย 
  • ค่าใช้จ่ายร่วม (Co-pay): จำนวนเงินที่กำหนดตายตัวที่คุณต้องจ่าย เช่น $25 ต่อการพบแพทย์หนึ่งครั้ง 
  • ค่าใช้จ่ายร่วมแบบเปอร์เซ็นต์ (Co-insurance): เปอร์เซ็นต์ที่คุณแบ่งจ่ายร่วมกับบริษัทประกัน เช่น คุณจ่าย 20% บริษัทประกันจ่าย 80% 
  • เพดานจ่ายสูงสุด (Out-of-Pocket Maximum): จำนวนเงินสูงสุดที่คุณต้องจ่ายเองในหนึ่งปี หลังจากนั้นประกันจะครอบคลุมค่าใช้จ่าย 100% 

ประกันสุขภาพทำงานอย่างไร? 

เมื่อคุณมีประกันสุขภาพ คุณจะจ่ายเบี้ยประกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาความคุ้มครอง  หากคุณต้องเข้ารับการรักษา กระบวนการจะเป็นดังนี้: 

  1. เข้ารับบริการ: ไปพบแพทย์ คลินิก หรือโรงพยาบาล โดยควรเลือกผู้ให้บริการที่อยู่ในเครือข่ายของบริษัทประกัน (in-network) เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย 
  2. จ่ายค่าหักลดหย่อน: เช่น หากคุณมี deductible $1,000 คุณจะต้องจ่ายเองจนถึงจำนวนนี้ก่อนที่ประกันจะเริ่มจ่าย 
  3. จ่ายค่าใช้จ่ายร่วม: เมื่อถึง deductible แล้ว คุณจะเริ่มจ่าย co-pay หรือ co-insurance สำหรับการรักษาเพิ่มเติม 
  4. ถึงเพดานจ่ายสูงสุด: หากคุณจ่ายถึง out-of-pocket maximum แล้ว ประกันจะคุ้มครองค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เหลือในปีนั้น 

ประเภทของแผนประกันสุขภาพ 

  • แผนที่นายจ้างจัดหา (Employer-Sponsored): 
    แผนที่พบมากที่สุดในสหรัฐฯ โดยนายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจ่ายเบี้ยประกัน
  • แผนรายบุคคลและครอบครัว (Individual & Family Plans): 
    ซื้อผ่านบริษัทประกันหรือ Health Insurance Marketplace (ภายใต้กฎหมาย ACA) มีหลายระดับความคุ้มครอง เช่น Bronze, Silver, Gold, Platinum 
  • Medicare:
     โปรแกรมของรัฐบาลกลางสำหรับผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป หรือผู้มีความพิการบางประเภท ประกอบด้วย Part A (โรงพยาบาล) และ Part B (การแพทย์ทั่วไป) 
  • Medicaid:
    โปรแกรมที่รัฐร่วมกับรัฐบาลกลางจัดให้สำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยคุณสมบัติจะขึ้นอยู่กับแต่ละรัฐ 
  • ประกันสุขภาพระยะสั้น (Short-Term): 
    เหมาะสำหรับการคุ้มครองชั่วคราวในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยทั่วไปคุ้มครองไม่เกิน 12 เดือน

เลือกแผนประกันสุขภาพให้เหมาะกับคุณ 

  • ประเมินความต้องการทางการแพทย์: คุณพบแพทย์บ่อยไหม? มียาที่ต้องใช้ประจำหรือไม่? 
  • เปรียบเทียบเบี้ยประกันกับ deductible: แผนที่มีเบี้ยประกันต่ำมักจะมี deductible สูง และในทางกลับกัน 
  • ตรวจสอบเครือข่ายแพทย์: แพทย์หรือโรงพยาบาลที่คุณใช้บริการอยู่รวมอยู่ในเครือข่ายของแผนหรือไม่ 
  • พิจารณาเพดานจ่ายสูงสุด: ตรวจสอบว่าเพดานค่าใช้จ่ายต่อปีอยู่ในระดับที่คุณรับได้ หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน 

ประกันสุขภาพกับกฎหมาย Affordable Care Act (ACA) 

ACA หรือ Obamacare ทำให้การเข้าถึงประกันสุขภาพง่ายขึ้น โดยมี Marketplace สำหรับซื้อแผนประกัน และให้เงินช่วยเหลือแก่ผู้มีรายได้น้อย  แผนทั้งหมดใน Marketplace ต้องครอบคลุมบริการจำเป็น และไม่สามารถปฏิเสธผู้มีโรคประจำตัวได้ 

ทำไมประกันสุขภาพจึงสำคัญ 

  • ป้องกันหนี้จากค่ารักษาสูง: ค่าใช้จ่ายจากเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์อาจสูงจนก่อหนี้ได้ 
  • เข้าถึงการป้องกันโรค: ทำให้คุณเข้าถึงบริการตรวจสุขภาพ วัคซีน และการรักษาได้เร็ว 
  • อุ่นใจ: คุณรู้ว่าคุณและครอบครัวมีความคุ้มครองหากเกิดเหตุไม่คาดคิด 

ประกันสุขภาพคือเครื่องมือสำคัญในการจัดการค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ และสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว  เมื่อคุณเข้าใจพื้นฐาน การเลือกแผนที่เหมาะสมจะง่ายขึ้น และช่วยให้คุณดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัวได้อย่างมั่นใจ 

คำเตือนและข้อจำกัดความรับผิดชอบ: 
การรับประกันของแผนประกันภัย รวมถึงรายได้รายงวด ขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระเบี้ยของบริษัทประกันผู้ออกกรมธรรม์ ตัวแทนประกันที่ได้รับใบอนุญาตจะได้รับผลตอบแทนจากการขายแผนดังกล่าว ข้อมูลที่นำเสนอมีวัตถุประสงค์เพื่อการให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุนส่วนบุคคล โปรดปรึกษาที่ปรึกษาวิชาชีพ เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือกฎหมาย ก่อนตัดสินใจดำเนินการด้านการเงินหรือการลงทุน